ตามสถานการณ์ที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองหลายกลุ่ม
ได้ทำการชุมนุมประท้วงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑล ตลอดจนพื้นที่ต่างๆ
ของประเทศ และมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ความรุนแรง
ด้วยการใช้อาวุธสงครามต่อประชาชน และสถานที่สำคัญอย่างกว้างขวาง เป็นผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์
เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บและเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มจะก่อให้เกิดเหตุการณ์จลาจล
และความไม่สงบเรียบร้อยอย่างรุนแรงในหลายพื้นที่
อันกระทบต่อความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวมนั้น
เพื่อให้การรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
และนำความสงบสุขกลับคืนสู่ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายโดยเร็ว
จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 2 และมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457
ประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม
พุทธศักราช 2557 เวลา 03.00 น.
เป็นต้นไป
ในเวลาต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ได้มีหนังสือประกาศจากกองทัพบก ฉบับที่ 2/2557
เรื่องการจัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) ขึ้นมาลงนามโดย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก โดยระบุว่า
ประกาศฉบับดังกล่าวอ้างอำนาจตามมาตรา 2 และมาตรา 6 แห่ง พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ.2457 และที่แก้ไขเพิ่มเติมให้ดำเนินการดังนี้ คือ
1. ให้จัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย
(กอ.รส.) โดยมี ผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ผอ.รส.)
2. ให้ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย
(ศอ.รส.) ที่จัดตั้งขึ้นตามประกาศ เรื่อง
พื้นที่ปรากฎเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ลงวันที่ 28 เม.ย. 2557 ให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ 20 พ.ค. 2557 เวลา 03.00 น.
และให้กำลังของหน่วยต่างๆ ตามโครงสร้างการจัดของ ศอ.รส. (เว้น กำลังของกองทัพบก
กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ) เคลื่อนย้ายกลับที่ตั้ง
เพื่อไปปฏิบัติภารกิจตามปกติของแต่ละหน่วย
นอกจากนั้น ตามคำสั่งข้อ 2.2 ของประกาศฉบับที่ 2/2557 ยังระบุ
ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ทั้งตำรวจและทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ รวมถึงกระทรวงมหาดไทย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ส่งมอบกำลังในอัตราให้ขึ้นควบคุมทางยุทธการแก่ กอ.รส. ทั้งหมด
จนกระทั่ง เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. มีรายงานจากผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวต่างๆ ระบุว่า
กำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 20 นาย ได้เข้าประจำการตามสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ
อาทิเช่น สถานีโทรทัศน์ช่อง
3, สถานีโทรทัศน์ช่อง 5, สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส, สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี,
สถานีโทรทัศน์ในเครือเนชั่ย
รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ในเครือเอเชียอัพเดท ซึ่งการเข้าควบคุมดังกล่าว
เพื่อขอความร่วมมือในการแจ้งประกาศกฏอัยการศึกทั่วประเทศ
เมื่อประมาณ 06.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก
ได้ออกแถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ อ่านประกาศกฎอัยการศึก ฉบับที่ 1 ถ่ายทอดสัญญาณทุกช่องโทรทัศน์ทั่วประเทศ
ขณะที่ทางด้าน น.ส.วาสนา นาน่วม
ผู้สื่อข่าวสายทหาร หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ระบุว่า
การประกาศอัยการศึกครั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ใช่การปฏิวัติรัฐประหาร
แต่เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยเท่านี้
ทั้งนี้ก็อาจจะมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหารในอนาคตได้เช่นเดียว
หากสถานการณ์ไม่คลี่คลาย
อย่างไรก็ตาม
การประกาศกฏอัยการศึกครั้งนี้ของประเทศไทย ยังถูกนำเสนอข่าวไปทั่วโลก
สำนักข่าวต่างประเทศชื่อดังอย่าง บีบีซี หรือ ซีเอ็นเอ็น ต่างรายงานข่าวด่วน
เกี่ยวกับการใช้กฏอัยการศึกครั้งนี้
พร้อมกับจับตาดูสถานการณ์บ้านเมืองในประเทศไทยอย่างเข้มข้นอีกครั้ง
รายงานโดย:ดอน ซิกมวย